สถิติ
เปิดเมื่อ20/09/2016
อัพเดท21/09/2016
ผู้เข้าชม2730
แสดงหน้า3091
เมนู
ปฎิทิน
April 2024
Sun Mon Tue Wed Thu Fri Sat
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
    




ต้นผักชี

อ่าน 1682 | ตอบ 0
~~'ผักชี' มีชื่อพื้นบ้านว่า ผักชีไทย ผักชีลี ผักชีลา ผักหอม ผักชีไร่ ผักหอมน้อย และผักชี ผักชีมีชื่อเรียกหลายชนิดแตกต่างกันไปตามพื้นที่ปลูก เช่น ภาคเหนือเรียกว่า ผักหอมป้อม และผักหอมผอม ภาคอีสานเรียกว่า ผักหอมน้อย และที่นครพนมเรียกว่า ผักหอม
      มีชื่อภาษาอังกฤษว่า คอร์เรียนเดอร์ (Coriander) ไชนีสพาสย์เลย์ (Chinese Parsley)
      มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า คอร์เรียนดรัม ซาติวัม (Coriandrum sativum L.) จัดอยู่ในวงศ์ อัมเบลลิฟีรี้ (Umbelliferae) ผักชีเป็นพืชผักสวนครัว ซึ่งเราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ตั้งแต่ส่วนของ ใบ ก้าน ราก โดยนิยมนำมาบริโภคเป็นผักสด และใช้เป็นส่วนประกอบอาหารได้หลายชนิด และยังช่วยทำให้อาหารมีกลิ่นหอม รสชาติดีอีกด้วยค่ะ'ผักชี' สามารถปลูกได้กับดินแทบทุกชนิด แต่จะชอบดินร่วนมากกว่า หรือดินที่มีการระบายน้ำดี ปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ในดินที่มีความชื้นพอสมควร ผักชีเป็นพืชสมุนไพรล้มลุก มีอายุสั้นประมาณ 40-60 วัน ใบ ก้านใบ ลำต้น ดอก มีกลิ่นหอม ทุกส่วนของผักชีสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด ดังนั้นก่อนถอนผักชีควรรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นก่อนเพื่อสะดวกในการถอน ควรถอนด้วยมือเพื่อที่จะได้ติดทั้งต้นและราก ผักชีที่ปลูกกันแพร่หลายในประเทศไทยมี 2 ชนิดคือ
1. พันธุ์พื้นเมือง   มีลักษณะใบบาง ต้นเล็ก เมล็ดเล็ก ออกดอกเร็ว อายุสั้น มีกลิ่นหอมมากจนฉุน
2. พันธุ์อาฟริกา   มีลักษณะใบใหญ่หนา ต้นใหญ่ กลิ่นหอมเล็กน้อย อายุยาวนานกว่าพันธุ์พื้นเมือง
~~เนื่องด้วยในสังคมไทยของเรามีการใช้ผักชนิดต่างๆในการประกอบอาหารตั้งแต่ในอดีตจนปัจจุบัน จึงเล็งเห็นคุณประโยชน์ ของผักที่เป็นส่วนประกอบของอาหารไทยต่างๆ
   สังคมไทยนิยมผักเครื่องเทศต่างๆโดยยกตัวอย่างคือต้น “ผักชี” ซึ่งทำให้เราทราบถึงประโยชน์ของผักชีนั้นทั้งส่วนต่างๆของผักเช่น ราก และ ใบ เป็นต้น อาจทำให้เราได้รับประโยชน์จากผักชีได้ทราบประโยชน์มากขึ้นและจะได้หันมาสนใจผักชีมากกว่าการเป็นผักชีเพียงแค่ผักประดับเมนูอาหาร
 
ความคิดเห็นของผู้เข้าชม
ชื่อผู้แสดงความคิดเห็น :
สถานะ : รหัสผ่าน :
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง :
รหัสความปลอดภัย :